Sunday, July 6, 2014

Audax Randonneurs Thailand Khao Yai 28Jun2014 ปั่นจักรยานวนรอบเขาใหญ่ 307.5 กม. ภายใน 20 ชั่วโมง


ขอไว้อาลัยให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้นของนักปั่น เพื่อนร่วมทาง Audax Khao Yai ในการปั่นเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. 2557

ขอแสดงความยินดีกับเพื่อน นักปั่นที่พิชิตเส้นทางอันหฤโหดมาได้มากกว่า 319คน(ผลอย่างไม่เป็นทางการ)หรือกว่า 68%ของนักปั่นที่เข้าแข่งขัน 467คน
และแสดงความนับถือหลายๆ ท่านที่ปั่นจนจบ 300+ ก.ม. แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยไปกว่ากำหนด (^_^)

เนื่องจากเป็นการเข้าร่วม Audax ครั้งแรก จึงเขียนบันทึกนี้ขึ้นเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ตรงที่ได้ปั่นอย่างยาวนานด้วยระยะทางรวม 317 ก.ม. ด้วยเวลากว่า 22 ชั่วโมง ยาวนานที่สุดบนอานจักรยานของผม ซึ่งบันทึกผลการปั่นตามรูป
ไม่ได้ต่างไปจากรูปที่จัดเตรียมโดยผู้จัดไว้มากนัก
แต่ เวลา คือ สิ่งที่ต่างไปมากๆ

เดินทางจากหาดใหญ่พับจักรยานขึ้นเครื่องบินไปลงดอนเมือง ไปต่อรถตู้ รังสิต-กบินทร์บุรี ซึ่งใช้เวลารออยู่ 2 ชั่วโมง และอยู่บนรถตู้อีกเกือบ 3 ชั่วโมง เมื่อถึงที่พักก็ออกไปซื้อเสบียงเตรียมพร้อมการปั่นไปด้วยตนเอง พึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุดตามแนวการปั่นของ Audax ซึ่งได้เพิ่มน้ำหนัก 12 กิโลกรัมไปในกระเป๋าท้ายจักรยาน

  • น้ำดื่มขวด 1.5 ลิตร จำนวน 4 ขวด น้ำหนัก 6 ก.ก. (แช่ช่องแข็ง 3 ขวด ทำให้มีน้ำเย็นชื่นใจ)
  • น้ำชาเขียวขวด 1 ลิตร จำนวน 6 ขวด น้ำหนัก 6 ก.ก. (แช่ช่องแข็ง 5 ขวด ใช้ผสมกับน้ำเย็นทำให้มีน้ำเย็นหวานลดลง 50% ใช้ดื่มได้ หากปั่นไปทันจุด Check Point หรือไม่พบร้านค้ากลางทางที่ไม่ใช่เขตชุมชน หรือเวลาค่ำคืนที่ร้านค้าปิด)
  • ขนมพายไส้ข้าวโพด ไส้เผือก จำนวน 4 ชิ้น

จุด Check Point ทั้ง 5 และจุดเริ่มต้นสิ้นสุดเป็นดังรูป

โดยเปรียบเทียบจากบันทึก "V-Team" ลุย Audax300 มากกว่าการแข่งขัน คือการเอาตัวรอด ที่ http://pantip.com/topic/32257803

เวลาของ V-Team # เวลาปิด Check Point # เวลาถึง Check Point ของผมเป็นดังนี้

0. ก.ม. 0 เริ่มต้น 0509น. # 0600น. # 0526น. 
โต๊ะรายงานตัวที่ผู้จัดเตรียมไว้ 5 โต๊ะๆ ละ 100+ รายชื่อ นักปั่นเข้าไปที่โต๊ะตาม Audax-ID ของตัวเอง

แสดงบัตรประชาชนและก็รับ
  1. ใบสีส้มบันทึกเวลา Check Point 
  2. Cue Sheet ที่เป็นแผ่นบอกระยะทาง ทิศทาง กำหนดเวลาการปั่น 
  3. ซองพลาสติกกันน้ำมีเชือกยาวๆ แขวนคอ สำหรับใส่ 1&2
  4. ครีมทาก้นลดการเสียดสีกับอาน (ซึ่งช่วยได้บ้างเพราะผมไม่ได้ใช้กางเกงปั่น

ใบสีส้มบันทึกเวลา Check Point เริ่มประทับตรา PASSED ว่าได้ออกตัวไปแล้วเวลา 0500น.


    0526 น. มาถึงจุดเริ่มต้นช้าเพราะเริ่มปั่น 0425น. ออกจากห้องพักที่ไกลออกไป 14km เป็นแต้มต่อ (^_^)
    เนื่องจากตอนเดินทางมาจากหาดใหญ่แบบรีบๆ ลาครึ่งวันบ่ายวันศุกร์ออกมาจากที่ทำงาน ลืมของสำคัญ 3 อย่างคือ 
    • ผ้าบัฟสำหรับสวมบังแดดตอนก่อนเที่ยงถึงบ่าย ที่จุดเริ่มต้นมีเต้นท์มาตั้งขายที่ราคาผืนละ 120 บาท ทั้งๆ ที่ราคาทั่วๆ ไปอยู่ที่ 80 บาท ก็จำเป็นต้องสนับสนุนผู้ขายไว้บ้าง
    • เสื้อสะท้อนแสง หรือแถบสะท้อนแสง แขวนลืมไว้ที่ประตูห้องทำงานไม่ได้สวมมาด้วย ณ เวลาที่เต้นท์ขายของ 0520น. ผู้ขายบอกว่าขายหมดไปแล้ว... ข้อเตือนใจ ของบางอย่างในบางเวลามีเงินก็ซื้อไม่ได้นะครับ (^_^)
    • กางเกงบุนวมสำหรับขี่จักรยาน (ก่อนปั่นครั้งนี้เคยปั่นไกลสุด 210 ก.ม. รอบทะเลสาบสงขลาตอนบน เมื่อเกินระยะ 70 ก.ม. จะเริ่มนั่งบนอานไม่ติด) เพื่อให้ผ่าน 300 ก.ม. ไปแบบสบายตูด จึงซื้อมาใช้แต่ดันวางลืมไว้ในตู้เก็บของห้องทำงานไม่ได้ใส่กระเป๋ามาด้วย                                                                 ณ เวลาที่เต้นท์ขายของ 0520น. มีขายมากมายแต่เป็นแบบบางๆ จึงไม่ซื้อเพราะว่า ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก จึงไม่ได้ใช้กางเกงบุนวม                                                                                                    การปั่น 300 ก.ม. ครั้งนี้จึงมีเพียงกางเกงบอกเซอร์ชั้นในบางๆ และกางเกงกีฬาขา3ส่วนตามรูป (ขอขอบพระคุณภาพจาก คุณ RCPM สะพายกล้องส่องงานแข่ง Audaxฯ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=56&t=1002032 หน้าที่ 9) ครับ (^_^)

    ขอขอบพระคุณภาพจาก คุณ RCPM ที่ไปซุ่มถ่ายรูปครั้งหนึ่งในชีวิต พิชิตใจ ทางไกล 317 ก.ม. นี้ ที่ระยะทาง 11 ก.ม. ก่อนถึง Check Point@1

     และหากไปดูรูปนักปั่นในครั้งนี้ ซึ่งมีจำนวนผู้ลงทะเบียน 525 คน มาร่วมปั่น 476 คน บนเส้นทางที่ปั่นส่วนมากจะเห็นว่าใช้จักรยานเสือหมอบ รถพับล้อเล็กมีให้เห็นน้อยมาก ผมก็ปั่นชื่นชมบรรยากาศยามเช้าไปเรื่อยๆ ตามเส้นทาง
    จนเริ่มขึ้นเขา ซึ่งทราบว่าความชันที่ 7% ระยะทางยาว 5 ก.ม. (ก็ไม่เป็นอุปสรรคหนักหนา เพราะเคยได้ผ่านความชัน 10% ระยะทางยาว 3 ก.ม. ที่ภูเขาชายแดนไทยมาเลเซีย ด่านวังประจัน สตูล มาได้แล้ว 2 ครั้ง) แต่ก็ปั่นจนมาตามหลังคุณผู้หญิงล้อเล็ก
    ซึ่งมีเสือหมอบ เสือภูเขา ปั่นแซงขึ้นไปจำนวนมากๆ ในช่วงทางขึ้นเขา ก็เลยตามปิดท้าย เผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้น พอจะช่วยเหลือให้ผ่านทางชันขึ้นเขา ที่มีรถบรรทุกขึ้นเขา มีกลิ่นผ้าเบรคไหม้จากรถบรรทุก และกลิ่นควันไอเสียรถยนต์ ปะปนไประหว่างทางขึ้นเขา และมีจุดที่รถบรรทุกพ่วง พับกลางคันขวางกลางถนนปิดช่องจราจรไป 1 ช่อง เหลือเพียงช่องเดียวมีตำรวจคอยควบคุมการปล่อยรถ แบ่งรถขึ้น แบ่งรถลงเมื่อผ่านมาได้ก็พบเส้นทางก็ขึ้นๆ ลงๆ มาตลอด

    เมื่อพ้นจุดสูงสุดบนยอดเขาผมก็แวะพักถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ระหว่างทาง
    รถ 6 ล้อที่ผู้จัดเตรียมไว้จัดเก็บนักปั่นที่หยุดปั่นกลางทาง

    เมื่อปั่นมาได้ระยะตามโปรแกรมบน Android Tablet (แบตเตอรีขนาดใหญ่กว่ามือถือ เพื่อให้เก็บข้อมูลระยะทางได้ตลอดการแข่งขัน) ที่ระยะทาง 45.39 ก.ม. (ลำดับ 6 ตาม Cue sheet)
    ก็ถึงจุดที่ทีมผู้จัด Audax จัดอาสาสมัครมาบอกให้เลี้ยวซ้าย ไปเขาแผงม้า เมื่อดูจากระยะทางอีก 18.4 ก.ม. ก่อนถึง Check Point@1 ก็คิดว่าน่าจะยังปั่นทันด้วยเวลาที่เหลือ 1 ชั่วโมง...

    ระหว่างทางก็เป็นเนินขึ้นๆ ลงๆ และมีรีสอร์ทวิวสวยๆ ข้างทาง ก็อดไม่ได้ที่จะแวะถ่ายรูปข้างล่าง


    1. ก.ม. 64 Check Point@1 0832น. # 0913น. # 0937น.

    0937น. มาถึงจุด Check Point@1 ช้าไป 24 นาที ด้วยความประมาทในเส้นทาง :-( ที่จุดนี้คนที่รอๆ อยู่ก็เป็นนักปั่นที่เข้าไม่ทันเวลา สอบตก Audax กันเรียบร้อยแล้วจึงรอๆ ให้มีรถมารับ

    สำหรับผมที่ลงทุนมาแล้วจากหาดใหญ่ คิดว่าช้าไป 24 นาที จะไล่ตามต่อไปให้ทันได้ ก็ฉลองชัยชนะ เหนือใจตนเอง ที่ผ่านเส้นทางบนเขาใหญ่มาได้ ด้วยน้ำมัลเบอรี่เย็นๆ ที่ร้านค้าที่เห็นในรูปบน ทางซ้าย ขวดละ 35 บาท แต่ก็เปิดมาผสมกับน้ำที่อยู๋บนตะแกรงหลังรถจักรยาน 50% เพื่อลดความเย็น และความหวาน ต่อด้วยการนำน้ำชาและน้ำเย็นที่ละลายจากน้ำแข็งแล้วบางส่วนมาผสมน้ำเพื่อเตรียมไว้ดื่มกลางทาง ไปเข้าห้องน้ำเรียบร้อย ก็ลากจักรยานไปถ่ายรูปริมอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงข้างล่าง




    ที่จุด Check Point@1 นี้เหลือ เงาะให้กินอีกเยอะมากมาย แต่เครื่องดื่มต่างๆ หมดแล้วดูได้จากกองขวดที่เห็น และเชื่อว่านักปั่นหลายๆ ท่านก็พกติดไม้ติดมือไปด้วยบางส่วน มาหลังไปเกือบครึ่งชั่วโมงจึงไม่เหลือให้... แต่ก็ซื้อน้ำมัลเบอรี่กินเอง และยังมีน้ำที่เตรียมมาเอง...ไปต่อได้ครับ...

    จุด Check Point@1 หลายๆ คนเมื่อไม่ผ่าน ก็ถือว่า สิ้นสุด หยุด ไม่ไปต่อ แต่ผมก็มาเพื่อ Audax 300km ก็ตั้งใจจะไปให้ถึง... ออกปั่นต่อไป

    ลำดับ 8 ตาม Cue sheet 84.8 ซ้าย ไปทางเขาใหญ่ ผมผ่านไปถึง (ตามที่บันทึกจาก tablet ) 84.33 ก.ม. เมื่อเวลา 1123น. ก่อนมาถึงจุดนี้ ปั่นไป ก็มีเสียงเล็กๆ ถามอยู่เรื่อยๆ ร้อนนะ ร้อนนะ เหนื่อยนะ เหนื่อยนะ เข้าไม่ทันเวลาแล้วนะ จะไปต่ออีกทำไมวะ... ซ้ำๆๆๆ อยู่เรื่อยๆ ไปบนเส้นทางที่ยังขึ้นเขาอยู่

    ร้อนมาก เหนือยมาก จนถึงป้ายที่มีสวนองุ่น มีน้ำองุ่นขาย ก็แวะซื้อมาดื่มไปสองขวดเป็นเกล็ดน้ำแข็งเย็นๆ 1 ขวด และแบบไม่เป็นเกล็ดน้ำแข็ง 1 ขวด ผ่านมากว่า 100 ก.ม. ก้นก็ปวดไปหมดแล้ว กางเกงบุนวมก็ไม่ได้ใช้ ก็ได้โอกาสใช้ห้องน้ำที่สวนองุ่น ทาครีม(ที่ได้รับแจกจากจุดเริ่มต้น) 1/3 ซองไปเต็มๆ ก้น แต่ก็ช่วยได้แค่เป็นกำลังใจ ความปวดก้นยังคงอยู่เช่นเดิม ผู้ขายน้ำองุ่นบอกว่าปั่นต่อขึ้นเนินไปอีกนิดเดียวก็เป็นทางลงตลอดไปถึงทางเข้าเขาใหญ่แล้ว

    2. ก.ม. 115 Check Point@2 1123น. # 1239น. # 1358น.

    1358น. (ระยะ 114.99 ก.ม.ตามที่บันทึกจาก tablet ) มาถึงจุด Check Point@2 ช้าไป 1ชั่วโมง 19 นาที ยิ่งทิ้งห่างมากขึ้นไปอีก...

    ถึงจุดนี้ เสียงเล็กๆ ที่ก่อนหน้านี้คอยถามอยู่เรื่อยๆ ร้อนนะ ร้อนนะ เหนื่อยนะ เหนื่อยนะ เข้าไม่ทันเวลาแล้วนะ จะไปต่ออีกทำไมวะ... ซ้ำๆๆๆ อยู่เรื่อยๆ ก็ได้ชัยชนะ เห็นไหมมาก็ไม่ทันอีกเหมือนเดิม สมน้ำหน้า

    ที่จุดนี้รถบรรทุก 6 ล้อเก็บกวาด กำลังขนจักรยานที่มาถึง Check Point@2 ช้า และเลิกปั่นต่อ และพี่ที่ดูแลการขนรถก็ถามผมว่า ขนขึ้นรถไปเลยไหม? ไม่มีใครปั่นต่อแล้ว... เหมือนจะเข้าทาง เจ้าเสียงเล็กๆ
    แต่ก็ขอบคุณพี่ที่เสนอ ทางออก(จากการแข่งขันกับตนเอง)  แล้วเดินไปถ่ายรูป เป็นช่างถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกับป้ายทางขึ้นเขาใหญ่สักพัก เข้าห้องน้ำแล้วก็ไปต่อ...ลำดับ 12 ตาม Cue sheet 115.5 กลับรถ ไปทางมวกเหล็ก สำหรับผมไม่ใช่คนท้องถิ่น ไม่รู้ว่า มวกเหล็ก อยู่ตรงไหน? ดูป้ายแถวๆ ทางขึ้นเข้าใหญ่ก็ไม่เห็นมีป้ายไหน ชี้ทางไปมวกเหล็ก 
    จึงทำตาม Cue sheet อย่างเคร่งครัด กลับรถไปตามทางเดิม 3.2 ก.ม. 
    ซึ่งตอนหลังกว่าจะรู้ว่าไปผิดทางไปหาป้ายบนถนน ลำดับ 13 ตาม Cue sheet 118.7 ซ้าย ไปทางมวกเหล็ก ก็ออกนอกเส้นทางไป 5 ก.ม. ยังดีที่เป็นกลางวันยังมองเห็นป้ายบนถนนได้ง่ายๆ อยู่ หากเป็นกลางคืน มุมมองจำกัดก็อาจมองป้ายไม่เห็น ซึ่งแสดงความสำคัญของ Cue sheet ที่นักปั่นต้องหมั่นตรวจสอบตำแหน่งว่ากำลังปั่นอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องหรือไม่? ก่อนที่จะออกไปไกล...และหลงทาง...เสียเวลา :-(

    ตลอดทางก่อนนี้ปั่นมาด้วยการดื่มน้ำ น้ำชา น้ำเกลือแร่ที่ซื้อจากร้านข้างทาง กินขนมพายไส้ข้าวโพด ไส้เผือก ที่ซื้อมาก่อน ถึงจุดหิว แต่ก็กินมื้อหนักๆ ไม่ไหวจะปั่นต่อไม่ออก ปั่นผ่านร้านไก่ทอดข้างทาง ก็หอมแตะจมูก แวะกินแต่ก็กินลูกชิ้นทอด ไข่นกกระทาห่อแป้งเกี๊ยวทอด ไส้กรอกทอด พร้อมผัก 10 บาท

    แดดอ่อนลง ทางขึ้นเขาไม่มี กินพออิ่ม เสียงเล็กๆ คงหมดแรง เงียบไปแล้ว ปั่นลงเขาไปเรื่อยๆ ก็เห็น กลุ่มนักปั่นอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Audax ปั่นขึ้นเขาสวนทางมาเป็นระยะๆ เป็นเส้นทางที่นิยมของนักปั่น

    ลำดับ 15 ตาม Cue sheet 142.5 ซ้าย เข้าถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าแก่งคอย บนถนนช่วงนี้ยังเป็นตอนเย็นๆ ยังไม่มืด เห็นรถบรรทุก มากมาย ต้องใช้ความระมัดระวังในการข้ามทาง เข้า-ออก ถนนสายหลัก แต่ก็เป็นทางลงเขายาวๆ ไหลลงมาเรื่อยๆ สนุกๆ ลมดีตลอดทางลง แวะเข้าห้องน้ำที่ โรงงานนมไทยเดนมาร์ก ไม่ได้ถ่ายรูปใดๆ อีก ตั้งหน้า ตั้งตา ตั้งขา ปั่น ให้ทันสัก Check Point ก็ยังเป็นความหวังอยู่

    3. ก.ม. 165 Check Point@3 1501น. # 1600น. # 1800น.

    1800น. (ระยะ 170.60 ก.ม.ตามที่บันทึกจาก tablet ) มาถึงจุด Check Point@3 ช้าไป 2ชั่วโมง ยิ่งทิ้งห่างมากขึ้นไปอีก...เห็นทีมงานเก็บโต๊ะขึ้นรถกันเรียบร้อย ผมก็แวะเข้าห้องน้ำ

    ลำดับ 19 ตาม Cue sheet 167.4 ซ้าย เข้าถนน3222 มุ่งหน้าอ.บ้านนา ก่อนจะมืด หิวมากแล้ว แวะกินบะหมี่แห้งสองก้อนกับหมูสับ พร้อมน้ำซุปร้อนๆ ที่ร้านนี้ก็เล่าว่า เห็นจักรยานผ่านไปเยอะมาก มีนักปั่นจักรยาน 2 คนแล้วที่แวะกินอาหารที่ร้าน ผมก็เป็นคนที่ 3 แต่มาช้ามากๆ กินเสร็จก็ฝนตกลมแรงอยู่ 20 นาที ถือเป็นโอกาสได้พักก้น ที่ปวดมาก ออกจากอานรถจักรยานพักใหญ่ๆ

    ฝนซาลงเป็นละออง เริ่มมืด ติดไฟหน้าไฟท้าย และเสียบ Power Bank เพื่อชาร์จ Tablet ที่ใช้บันทึกเส้นทางมาตลอดทั้งวัน ตอนนี้น้ำหนักของน้ำจากสัมภาระลดลงไปจาก 12 ก.ก. เหลือ 5 ก.ก. ช่วงกลางวันดื่มน้ำไปแล้วกว่า 7 ก.ก. แถมน้ำเกลือแร่ น้ำผลไม้ ที่ซื้อจากร้านค้าระหว่างทาง อุดหนุนท้องถิ่น สัมภาระลดลงเหลือ
    • น้ำดื่มขวด 1.5 ลิตร จำนวน 2 ขวด (ยังเย็นอยู่บ้าง)
    • น้ำชาเขียวขวด 1 ลิตร จำนวน 2 ขวด (ไม่เย็นแล้ว)
    ผสมน้ำเตรียมปั่นต่อไป...บนถนนเปียก ฝนโปรย

    4. ก.ม. 208 Check Point@4 1745น. # 1856น. # 2056น.

    2056น. (ระยะ 213.07 ก.ม.ตามที่บันทึกจาก tablet ) มาถึงจุด Check Point@4 ช้าไป 2ชั่วโมง คงที่...
    ร้านจักรยาน ฤทธิ์ไบค์ ปิดไปแล้ว ปั่นต่อไปจนถึงตลาดนครนายก หิวอีกแล้ว แวะกินบะหมี่น้ำสองก้อนกับหมูแดง ที่ร้านไม่มีห้องน้ำให้เข้า ปั่นต่อไปจนแวะใช้ห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันระหว่างทาง
    สังเกตุเห็นป้ายข้างถนน ทางเฉพาะจักรยาน ทุกๆ 500 เมตร พร้อมรูปลายเส้นจักรยานสีขาวบนพื้นสีฟ้าบนผิวถนน และไม่มีรถจักรยานยนต์ หรือรถยนต์มาวิ่ง หรือจอดขวางทาง
    ประกอบกับรู้สึกอึดอัดกับหมวกที่ใส่มาตลอดวัน ก็ปั่นจักรยานเปิดหมวกมาตลอดนับจากนี้ไป...


    ผ่านเส้นทางนี้ในเขตใกล้ๆ ชุมชนจะเห็นกลุ่มรถจักรยานยนต์ อยู๋หลายๆ กลุ่ม แต่ก็ไม่ได้เข้ามารบกวนใดๆ ทางใครทางมัน

    5. ก.ม. 245 Check Point@5 2050น. # 2120น. # 2348น.

    2348น. (ระยะ 251.24 ก.ม.ตามที่บันทึกจาก tablet ) มาถึงจุด Check Point@5 ช้าไป 2ชั่วโมง+28นาที เพิ่มขึ้นจากเวลาพักกินบะหมี่และที่ปั่นช้าลง เพราะเจ็บก้น เอาเสียมากๆ...

    เส้นชัย ก.ม. 307 2359น. # 0100น. # 0330น.

    0330น. (ระยะ 303.1 ก.ม.ตามที่บันทึกจาก tablet )  ไม่ได้เข้าเส้นชัย แต่เข้าที่พัก เทียบเวลาเข้าเส้นชัย ช้าไป 2ชั่วโมง+30นาที เข้าที่พักซึ่งไกลจากจุดเริ่มต้นสิ้นสุดไป 14 ก.ม. ด้วยประเมินว่า กว่า 2ชั่วโมง หลังจากเวลาเข้าเส้นชัย คงไม่มีใครเหลืออยู่อีกแล้ว ระยะทางต่อเนื่อง 14+303=317 ก.ม. ที่ได้ผ่านมาตลอดวันนี้ ด้วยเวลา 22 ชั่วโมงที่เคลื่อนที่ และเวลาพัก 1.5 ชั่วโมง ก็เป็นสถิติใหม่ของชีวิตนี้ที่ทำได้แล้ว...
    หากปั่นไปเข้า จุดเริ่มต้นสิ้นสุด อีกแล้วกลับมาเข้าที่พัก ก็จะเริ่ม ระยะทางไปอีก 12+14=26 ก.ม. จึงขอยุติการปั่น Audax300 ไว้ด้วยระยะ 317 ก.ม. ในเวลารวม 23.5 ชั่วโมง ความเร็วเฉลี่ย 14.56 ก.ม./ช.ม. ซึ่งยังต้องปรับปรุงให้ผ่านขั้นต่ำของ Audax ที่ 15 ก.ม./ช.ม.

    แต่ด้วยรถพับ น้ำหนัก 15 ก.ก. น้ำหนักสัมภาระ 12 ก.ก. ผ่านเส้นทางรอบเขาใหญ่ 317 ก.ม. มาได้ก็พอใจในผลงานของตัวเองมากๆ แล้วครับ (^_^)

    หลังจากการปั่น...

    ร่างกาย

    • หลังจากถึงที่พักอาบน้ำอุ่นๆ ผ่อนคลาย ก็พบว่านิ้วก้อยมือขวาควบคุมไม่ได้ ชาๆ ไม่รู้สึก เวลาล้างหน้านิ้วก้อยมือขวานี้ก็จะกางๆ หุบเข้ามาให้นิ้วชิดๆ รองน้ำไว้ไม่ได้ อาการนี้ค่อยๆ บรรเทาลงจนวันที่สี่นิ้วก้อยมือขวากลับมาเป็นปกติ
    • หลังจากถึงที่พักอาบน้ำบนแผ่นหลังมีจุดแดงๆ เล็กๆ เป็นร้อยจุด ไปการอาบน้ำวันที่หนึ่งหลายๆ จุดเริ่มจางลง แต่บางจุดก็มีจุกขาวเป็นสิว ก็กดให้แตกมันๆ มือ และค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ แต่บางจุดก็เป็นสิวสุกขึ้น
    • หลังปั่นได้นอนพัก 6 ชั่วโมง ตื่นมาปวดหัวเข่าขวา แต่ยังพอเดินได้ปั่นจักรยานได้ แต่ถือว่าเป็นสัญญาณว่าต้องการพักหัวเข่าขวา การเดินทางกลับนั่งบนรถตู้ 3 ชั่วโมง แบกถุงจักรยานพับขึ้นบันไดสนามบินดอนเมือง ปั่นกลับที่พัก ก็พยายามพักๆ หัวเข่า ขึ้นลงบันไดก็ใช้ก้าวชิดก้าว ก้าวทีละขั้นๆ ไม่ให้เข่ารับภาระมากนัก ทำพักเข่านี้อยู่สองวัน ค่อยๆ  ดีขึ้น วันที่สี่หัวเข่าขวากลับมาเป็นปกติ
    • การเป็นผู้บริจาคโลหิตเป็นประจำทุกๆ 3 เดือน การบริจาคหลังการปั่นทางไกล วันที่สาม เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2557 เลือดจมแต่ช้ากว่าที่เคยๆ เป็น แต่ก็บริจาคครั้งที่ 62 ได้เรียบร้อยดี และถูกกำชับให้กินเม็ดยาเสริมธาตุเหล็ก บำรุงโลหิต
    • เหนือย...ก้น วันที่สองหลังจากปั่นก็เป็นปกติ

    จิตใจ
    ดีที่เอาชนะเสียงเล็กๆ นั้นได้ ซึ่งก่อนมา 300km นี้ก็ได้ลงทะเบียน test run 400km ต่อไว้แล้ว ซึ่งคิดว่าจะผ่านไปได้ด้วยเป็นทางเรียบ และต้องการเก็บข้อมูลมาเตรียมจัด Audax รอบทะเลสาบสงขลา แต่เนื่องจากการเสียชีวิตของเพื่อนนักปั่น กิจกรรม 400km ถูกเลื่อนเวลาออกไป

    จักรยาน

    • ซี่ล้อหลังของเกียร์ดุม Nuvinci N360 หักไป 1 ซี่ อาจจะเนื่องจากระยะทางที่จักรยานคันนี้ผ่านมาแล้วกว่า 7,500 ก.ม. บนเส้นทางหนักๆ เช่น ทางไปปิล้อก 399 ก.ม.
    • หากจะปั่น Audax อีกจะปรับปรุง กระเป๋าสัมภาระท้ายจักรยานจากใบเดี่ยวข้างเดียว12กิโลกรัม เป็นใบคู่และกระจายน้ำหนักใบละ 6 ก.ก. เท่าๆ นั้น เวลาจอดพักจะจอดได้สะดวกกว่า ไม่ต้องคอยหาเสาหรือต้นไม้เป็นที่พิงจักรยาน
    • หากจะปั่น Audax อีกจะปรับปรุง ใส่แสตนท์ขาคู่ แทนขาเดี่ยว เพื่อให้จักรยานตั้งอยู่ได้ด้วยตัวเอง เมื่อน้ำหนักตอนเริ่มต้นที่ยังเยอะอยู่ ถึงแม้จะกระจายสองกระเป๋าด้านท้าย แสตนท์ขาเดี่ยวจักรยานยังจอดแล้วล้ม

    อาหาร

    • ตั้งแต่มื้อเช้ามื้อแรกหลังการปั่นจะกิน เพิ่ม 2 เท่า เกินอิ่มไปจากปกติ ต่อเนื่องอยู่ 3 วันเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซม กลับคืนสภาพเดิม
    • หากจะปั่น Audax ควรเพิ่มกล้วยตากอบน้ำผึ้งติดตัวไปด้วย เพื่อใช้กินระหว่างพักกลางทาง (เมื่อครั้งที่เคยปั่นหัวหินประจวบคีรีขันธ์ ได้ซื้อกล้วยตากเล็บมือนาง กินได้สะดวกดี)
    • หากจะปั่น Audax ควรเพิ่มอินทผลัม ติดตัวไปด้วย เพื่อใช้กินระหว่างพักกลางทาง ซึ่งให้น้ำตาลและกินได้ง่าย

    "หัวใจคือไปให้ถึงโดยสวัสดิภาพด้วยตัวเราเอง"


    แรลลี่จักรยาน'300กม.'อุทาหรณ์อุบัติเหตุเตือนใจนักปั่น : เสาวลักษ์ คงภัคพูน - ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ
    http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20140630/187328.html

    สรุปทริป:งานแข่งขันจักรยานทางไกล Audax Randonneurs Thailand @KhaoYai 300BRM 28 มิ.ย.57

    http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=56&t=1004596